วันจันทร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2556

ทุ่งแสลงหลวง...เรื่องเล่าจากทุ่งหญ้า

   วันหนึ่งในเดือนพฤศจิกายน หลังจากนัดแนะกันเสร็จสรรพกับสมาชิกที่กระหายอยาก"ในรอยเท้า" ฉันได้แต่เฝ้ารอเพื่อจะได้เจอหน้าเพื่อนเก่าเหล่านั้น บุคคลผู้มีจิตศรัทธาในตัวเอง  และปรารถนาในเส้นทางที่ฉันชี้ให้ดู....


ริมระเบียงแคบๆหน้าห้อง  บ่ายวันนั้นฉันยังนั่งคิดอะไรอยู่เรื่อยเปื่อย  ในต้นฤดูหนาวที่มีแต่ความอบอ้าวของยามบ่าย  มันเหมือนการกลับมาเกิดใหม่ของฤดูร้อน  มองดูกิ่งกระถินหน้าห้องโยกไปโยนมาเหมือนพยายามส่งภาษาว่าตรูก็จะทนไม่ไหว รอให้ถึงเย็นค่อยว่ากัน  เรื่องของเสื้อผ้ากับกระเป๋าเดินทาง...



ตกเย็นหลังจากแสงตะวันอันทารุณหดหายไปในเงามืด ฉันงุ่นง่านออกจากอาการเฉื่อยชาเพราะพิษแดดเมื่อตอนบ่าย  นั่งมองดูเสื้อผ้าที่แขวนบนไม้และกระเป๋าเดินทางที่วางพิงผนังอยู่แล้วเหนื่อยใจ  เพราะแทบไม่เหลือให้เก็บไปเดินทาง งานนี้สงสัยชุดเก่งจะต้องโดดเดี่ยวเดียวดาย...



บ้านพักหลังใหญ่ตั้งอยู่กลางไร่ ถนนที่ตัดเข้าไปเป็นถนนแคบๆ พอแค่รถผ่านได้ทีละคัน แต่นั่นก็มากพอสำหรับวันที่มีแค่รถของพวกเรา ถนนบนเขาค้อบางครั้งเป็นทางชันดิ่งลงแล้วเหินขึ้นดูเหมือนกับกำลังขับรถลงไปในหลุมขนาดใหญ่แล้วต้องขับขึ้นปากหลุมครั้งแล้วครั้งเล่า  จนในที่สุดพวกเราก็มาถึงไร่แห่งนี้จนได้  "ไร่ภูเพชรรีสอร์ท" รีสอร์ทท่ามกลางขุนเขา  บรรยากาศดี  เงียบเชียบ  และอย่างเป็นกันเอง...


บ่ายเมื่อวานระหว่างที่นั่งตกปลาอยู่ฝายหลังรีสอร์ท ฝนเจ้ากรรมดันตกลงมาทำให้บรรยากาศที่เย็นสบายอยู่แล้วเปลี่ยนเป็นหนาวในทันที  โชคดีว่าพวกเราหลบทันจึงไม่เปียกและไม่ต้องทรมานหนาวกลางสายฝน  มื้อเย็นของเมื่อคืนคือหอยแครงแกล้มเหล้า  กับเรื่องราวสัพเพเหระที่ผุดขึ้นมาได้เรื่อยๆไม่มีจบ  จนดึกดื่นค่อนคืนเมื่อความรู้สึกตัวเริ่มสูญเสียก็ถึงแก่เวลาที่แต่ละคนจะประคองสติตัวเองกลับไปนอน  หมอกยังไหลขึ้นมาไม่ขาดสายจนรอบๆตัวมองดูเลือนลาง  เช้านี้ก็เช่นกัน  สายหมอกทำให้ทุกอย่างดูเป็นสีเทา...



    เช้าที่หมอกปกคลุมหนาเตอะ  ออบหลวงดูจะเป็นคนที่ตื่นเต้นกว่าคนอื่น  ฉันงัวเงียตื่นขึ้นเพราะเสียงเรียก  อากาศตอนเช้าหนาวเหน็บ  ใต้ผ้าห่มคือที่ๆเหมาะที่สุดในการหลับใหล  ฉันเดินออกมาตามเสียงเรียก  ไม่น่าเชื่อว่าสิ่งที่ปรากฎอยู่ตรงหน้าจะทั้งน่าขยะแขยงและน่าสรรเสริญในคราวเดียวกัน  ออบหลวงกำลังยืนเปลือยท่อนบนอยู่ในกลุ่มหมอก  ท้าลมหนาวอย่างไม่สะทกสะท้าน....



ไร่ภูเพชรเป็นรีสอร์ทที่ตั้งอยู่ใกล้กับทุ่งแสลงหลวง  ทางเข้าของไร่กับทุ่งอยู่ตรงข้ามกันเีพียงแค่ถนนกั้น  พวกเราวางแผนกันไว้ว่า  ตอนเช้าจะเดินทางไปสัมผัสไอหมอกแต่เช้า  เช้าที่หมอกลงหนักอย่างนี้  ลุงผู้ดูแลรีสอร์ทแกคงยังนอนอุดอู้อยู่บนที่นอนอุ่นๆ  โดยไม่ได้แยแสว่าพวกเราจะไปทำอะไรที่ไหน  เพราะในวงเมื่อคืนแกกับพวกเราต่างก็เมากันแทบฟุบ  ถ้าไม่เพราะออบหลวงบ้าพลังปลุกขึ้นมา  ฉันคงได้นอนฝันหวานใต้ผ้าห่มอุ่นๆเหมือนลุงแก...


ฉันฝืนใจอาบน้ำเย็นเฉียบของไร่เพราะเปิดเครื่องทำน้ำอุ่นไม่เป็น แต่ก็ดีเหมือนกันที่น้ำเย็นดูเหมือนจะคืนสติสัมปชัญญะได้ดีทีเดียว  ฉันแต่งตัวแบบลวกๆ เพราะไม่อยากเสียเวลามาก  เพื่อจะใช้ชีวิตในทุ่งได้นานๆ  เมื่อทุกคนพร้อมกันแล้วเราก็บ่ายหน้าเข้าไปตามถนนในทุ่งแสลงหลวงที่อยู่อีกฟากถนน... 


ทุ่งหญ้าสะวันนากำลังออกดอกชูช่อสูงท่วมหัว  พวกเราขับรถลัดเลาะไปตามทางดินที่ตัดผ่านทุ่ง  จากทุ่งแสลงหลวงที่อยู่ใกล้กับที่ทำการอุทยาน  ผ่านทุ่งนาของ ผกค.เมื่อหลายสิบปีก่อน  ต่อมาถนนก็พาเราวกสูงขึ้นไปสู่เนินสนซึ่งเป็นทางดินค่อนข้างชัน  แล้วพาเราหายเข้าไปในป่าซึ่งมีแต่ต้นสนขนาดใหญ่ขนาบอยู่ทั้งสองข้างทาง  ซึ่งเส้นทางนั้นพาเรามุ่งหน้าไปสู่ทุ่งนางพญาเมืองเลน   


ท้องฟ้ายามเช้าดูสดชื่นผิดหูผิดตา  หมอกยังไหลเอื่อยๆคลอต้นไม้ใบหญ้า  ฉันมองไปรอบๆแล้วรู้สึกง่วงบอกไม่ถูก  อยากนอนต่ออีกซักตื่นคงจะดี...


ออบหลวงดูจะพอใจกับสิ่งที่เห็นรอบๆตัวอยู่ไม่น้อย  ฉันมองดูเขายกกระป๋องเบียร์ที่ถือในมือซดอึกๆลงไปในลำคออย่างรวดเร็ว  ทำเอาฉันน้ำลายสอตามๆกัน...


เมื่อเวลามีไม่มากอย่างที่อยากให้เป็น  ฉันอดตาหลับขับตานอนมายืนถ่ายรูปใกล้ๆกับรถ  เผื่อไว้เวลาไม่ไหวจะได้หายไปงีบต่ออีกซักตื่น...


เห็นป้อค้ากับออบหลวงเดินหายเข้าไปในป่าสน  มันทำให้เกิดความอยากรู้อยากเห็นไปตามกัน  ชั่งใจอยู่ไม่นานฉันก็ตัดใจจากความหลับ  แล้วเดินตามหลังคนอื่นหายเข้าไปในนั้นอีกคน...


หญ้าต้นเล็กๆขึ้นแซมไปทั่วตามโคนสน  ถึงกระนั้นหญ้าพวกนี้ก็ดูสูงเทียมหัวเลยทีเดียว...


ป้อค้าคงชักสนุกขึ้นมา  หยิบกล้องตัวโปรดของฉันมากดชัตเตอร์ ฉับๆๆ ฉันได้แต่ยืนหอบกับระยะทางที่เดินมา  ตอนนี้แยกไม่ออกแล้วว่า  นี่ฉันกำลังง่วงขนาดหนักหรือกำลังเหนื่อยใจจะขาด....


มองเห็นทิวของยอดสนเรียงรายเป็นแนว เสียงลมข้างบนไกวกิ่งสนดังหวือๆ  ชวนให้ร่างกายที่กำลังเพลียอยากหลับสบายอยู่ตรงนั้นให้ชื่นใจ...


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น